CORN FLAKES คำแปล

วิลล์ เคลอจจ์ เกิดในปี 1860. เขา มีความคิดว่า วันหนึ่งเขาจะเปลียนทางในการกินอาหารเช้า. วิลล์ มีการศึกษาน้อย ถ้าเปรียบเทียบกับพี่ชายของเขาคือ จอน เคลอจจ์. จอน เป็น ประธานหมอ ที่ ศูนย์เพื่อสุขภาพ เบตเตอล กรีจ ใน มิชิเกน, โดยอย่างยิ่งคนที่ร่วยต้องการกินอาหารที่มีอานามัยและสุขภาพเพื่อดีแก่พวก เขา. งานบางอย่างแน่นไปที่พี่ชายของเป็นวส่วนกลาง เขาเป็นนักบัญชีและผู้จัดการและนอกจากนี้แล้วทุกสิ่งทุกอย่างพี่ของเขาไม่ ต้องการอะไรเลย. เขาช่วยดูแล จอนสำหรับอาหารเพื่อสุขภาพ สำหรับความอดทนของเขาดี พวกเขาทำงานทุกคน พยายามเพื่อสร้างขนมปังเพื่อสุขภาพ สำหรับอาหารเช้ามาจากข้าวสาลี พวกเขาพยายามทุกสิ่งทุกอย่างกับข้าวสาลี, พวกเขาตุ้มมันและขณะนั้นมวลมันให้เสมอออก แต่ว่าดูไปไม่เหมือนได้ทำอะไรเลย ที่งานนี้.

วันหนึ่ง วิลล์ ได้ อาหารบ่างอย่าง, โดยทั่วไปและพวกเขาได้ออกจากที่นั้นขณะนั้นพวกเขาได้กลับมาพร้อมมีข้าวสาลี ที่มีรสชาติอร่อยมาด้วย. เขาได้ตัดสิ้นใจว่าข้าวสลีนี้ จากการเริ่มต้นลูกกลิ่ง ไม่ว่าอย่างไรก็ตามความพลาดใจของพวกเขาคือพืชพันธ์ที่ทำมาจากข้าวสาลีเป็น ลูกกลิ่ง ขณะนั้นเขาได้ปิ่งลูกกลิ่งในเตาอบต่อมาพวกมันก็แห่งเป็นสีน้ำตาล หลังจากนั้นเขาพยายามใช้เวลาให้น้อย เขาทำการผลิตข้าวสาลี เป็นลูกกลิ่งไม่ปราศจากรสชาติอร่อยแต่อย่างใด พวกเขาได้ถามพี่ชายของเขา จอน ว่า บริการ อาหารเช้าใหม่ในห้องอาหารตอนเย็นของศูนย์สุขภาพ ผู้ป่วยได้กินอาหารเช้าใหม่และชิดชอบมัน .มันเกิดเมื่อปี 1894, และธัญญาหารก็เกิดขึ้น.

ยิ่ง ไปกว่านั้นภายหลังพวกเขาทำศูนย์สุขภาพ ลูกค้าสนใจสั่งซื้อของศูนย์รวม จากปี 1895 จอน และ วิลล์ ผลิตได้100,000เผานต์ แผ่นบางๆทุกๆปี และ ขายราคาชิ้นละ10เผานต์ สำหรับกส่อง 10 เซ็นต์ จอน ไม่เอาใจไส่ ไม่ห่วงใยในการธุระกิจอาหารไหม่นี้และงานของเขา น้องชายทำเป็นปกติ. มักจะทดลองต่อเนื่องกับอาหารไหม่ๆ ต่อมาจำนวนของลูกค้าไม่มากเท่าในอดีตและออกมาธัญญพืชไหม่ทำมาจากข้าวฏโพด มันเป็นข้าวโพดแผนบางๆ สิ่งเดียวของลูกค้าที่เป็นศูนย์รวมจุดสำคัญ คือผู้ชายชื่อ ชาเลอส์ โพสต์ ที่เขาเดินผ่าน ศูนย์กลางจุดสำคัญ เขาค่อยเฝ้าดู การปรุงธัญญาหาร ขณะที่เขาเดินทางกลับบ้าน เขาลงมือเปิดบริษัทธัญญาหารของเขาด้วยตัวเขาเอง จากปี 1900 บริษัทธัญญาหารของ โพสต์ ล่องทำเป็นเงิน 3 ล้านเหรีญในการขายและแผ่รหลายเวลานี้ มากกว่า 20 บริษัท อาหารเช้าอื่นๆตั้งตัว เริ่มในแบตเตอล กรีค บริษัททั้งหมดล้วนทำธัญญาหาร น้องชาย เคลอจจ์ โกรธคนเล่านั้นที่ใช้ความคิดและคล้ายเป็นคนร่วย.

สองพี่นกงได้เริ่มเถาะกันเกี่ยวกับเรื่องที่จะทำเมล็ดพืชในอนาคตของพวกเขา. จอน ต้องการที่จะจำแน่กศูนย์สุขภาพของเขาในอนาคตอย่างเดียว ในขณะที่ วิลล์ ต้องการที่จะเริ่มสร้างบริษัตทำเมล็ดพืช การเถลาะกันนี้ น้องชายได้หันมาคัดข่านพี่ผู้ชาย และทุกคนก็หยุดทำงาน.ในปี 1906 วิลล์ ได้เปิดบริษัตโดยตนเองเรียกว่า บริษัต โถสต์ ขอนร์ แฟลก และเริ่มที่จะจำน่าย ขอนร์ แฟลก. โดยในปี

-6

1907 บริษัตของเขาผลิตได้ 2,900ห่อของเมล็ดพืชทุกๆวัน. วิลล์ได้เลื่อนราคาเมล็ดพืชของเขาทุกๆครั้ง และจำน่ายหลายล้านในการโฆษนา.

วิลล์ คิลลอจจ์ และ ลูกชายของเขาได้ทำงานทุกๆคนในบริษัต แต่ว่าพวกเขาเถลาะกันตลอด และในที่สุด วิลล์ได้บอกลูกชายออกไป.โดยในปี 1948 บริษัต เคลลอจจ์ ได้ขาย มากกว่า100 ล้านดอลลา วิลล์ เคลลอจจ์ได้รับประโยชน์เงิน ล้านของดอลลา แต่ว่าเขาได้ทำต่อเพื่ออยู่เป็นชีวิตแบบธรรมดา เขาอาศัยอยู่บ้านสองลังและ เขาชอบบริจาคเงินเหล่านี้เพื่อช่วยเด็กอย่างพิเศษ ในปี 1930 วิลล์ เคลลอจจ์ได้เริ่มสร้างมูลนิธิ เคลลอจจ์ เพื่อช่วยเด็กๆ วิลล์ เคลลอจจ์ ตายในปี 1951 ในอายุ 91 เขาได้ทำงานจนถึงที่สุดของชีวิต ณ ที่ มูลนิธิ บริษัตของเขาได้ขยายแปรลายในการผลิตอย่างค้วางขวางทั่วโลก สำหรับ ของที่จัดเรียบร้อยเพื่อกินเมล็ดพืช เช่น ก็มีเรื่องราวอย่างไร ประชาชนก็ยังกินเมล็ดพืชต่อ เพราะพวกเขายังคิดถึงจาน ช้อน น้ำนมบ้าง และกล่องของเมล็ดพืชบาง…….!