รูปสองอย่าง11

ประเภทที่ ๑๑ ลักขณรูป

ลักขณรูป คือ รูปที่แสดงความเกิดขึ้นให้ปรากฏ รูปที่แสดงความเจริญให้ ปรากฏ รูปที่แสดงความเสื่อมให้ปรากฏ รูปที่แสดงความดับไปให้ปรากฏ มี ๔ รูป คือ

(๑) รูปัสสอุปจย แปลว่า ความเกิดขึ้นของรูป

(๒) รูปัสสสันตติ " ความเจริญของรูป

(๓) รูปัสสชรตา " ความเสื่อมของรูป

(๔) รูปัสสอนิจจตา " ความแตกดับของรูป

ทั้ง ๔ รูป ดังกล่าวชื่อว่า ลักขณรูป คือ รูปที่มีกาลเวลาเป็นที่กำหนดในการ ชี้ขาด

ธรรม ทั้งหลายอันบัณฑิตกำหนดรู้ได้ว่า ธรรมเหล่านั้นเป็นสังขตะด้วยอาศัย รูปนี้ ฉะนั้นรูปที่เป็นเหตุแห่งการกำหนดรู้ได้นั้น ชื่อว่า ลักขณะ

สังขตธรรมมี ๓ คือ จิต เจตสิก และ รูป ถูกปรุงแต่งด้วยปัจจัย ๔ คือ ๑. กรรม ๒. จิต ๓. อุตุ ๔. อาหาร

ในเมื่อจิต เจตสิก และรูป ถูกปรุงแต่งด้วยปัจจัย ๔ ดังนี้ ก็จะปรากฏให้รู้ ได้ว่า

๑. จิต ก็เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป

๒. เจตสิก ก็เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป

๓. รูป ก็เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป

ความ ที่ปรากฏให้รู้ได้ว่า เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป นี่แหละ เรียกว่า ลักขณะ หรือลักษณะ และลักขณะนี้จะมีอยู่ในจิต เจตสิก รูป เท่านั้น

๒๕. อุปจยรูป

อุปจยรูป คือ รูปที่เกิดครั้งแรก หรือรูปที่มีขึ้นครั้งแรก ปรากฏขึ้นครั้งแรก ของนิปผันนรูปนั่นเอง มีลักขณาทิจตุกะ ดังนี้

อาจย ลกฺขโณ มีการแรกเกิด เป็นลักษณะ

รูปานํ อุมฺมชฺชาปน รโส มีการทำให้บรรดารูปได้เกิด เป็นกิจ

ปริปุณฺณภาว ปจฺจุปฏฺฐาโน มีสภาพที่บริบูรณ์ของรูป เป็นผล

อุปจิตรูป ปทฏฺฐาโน มีรูปที่๒๖. สันตติรูป

สันตติรูป คือ รูปที่เกิดสืบต่อกันกับอุปจยรูป หรือ รูปที่มีต่อ สืบต่อจาก อุปจยรูปของนิปผันนรูป นั่นเอง

ความ เกิดขึ้นสืบต่อกันของนิปผันนรูป ชื่อว่า สันตติ กล่าวคือ เมื่อรูปนั้น ๆ เกิดขึ้นครั้งแรกแล้ว รูปที่เกิดสืบต่อจากรูปที่เกิดครั้งแรกนั่นเอง เรียกว่า สันตติรูป

สันตติรูป มีลักขณาทิจตุกะ ดังนี้

ปวตฺติ ลกฺขณา มีการเจริญอยู่ เป็นลักษณะ

อนุปฺปพนฺธน รสา มีการสืบต่อ เป็นกิจ

อนุปจฺเฉท ปจฺจุปฏฺฐานา มีการไม่ขาดจากกัน เป็นผล

อนุปพนฺธกรรูป ปทฏฺฐานา มีรูปที่ยังให้ต่อเนื่องกัน เป็นเหตุใกล้

กำลังจะเกิด เป็นเหตุใกล้

๒๗. ชรตารูป

ชรตารูป คือ รูปที่เป็นความแก่ของนิปผันนรูป หรือรูปที่กำลังเสื่อมไปของ นิปผันนรูป ภาวะแห่งความแก่ของนิปผันนรูป ชื่อว่า ชรตา

ชรตารูป มีลักขณาทิจตุกะ ดังนี้

รูปปริปาก ลกฺขณา มีการเสื่อมของรูป เป็นลักษณะ

อุปนยน รสา มีการนำไปซึ่งความเสื่อม เป็นกิจ

นวภาวาปคมน ปจฺจุปฏฺฐานา มีสภาพที่ไม่เกิดใหม่ เป็นผล

ปริปจฺจมานรูป ปทฏฺฐานา มีรูปที่เสื่อม เป็นเหตุใกล้

๒๘. อนิจจตารูป

อนิจจตารูป คือ รูปที่ดับไป หรือรูปที่หมดไปของนิปผันนรูป

ความดับของนิปผันนรูป ชื่อว่า อนิจจตา

อนิจจตารูป มีลักขณาทิจตุกะ ดังนี้

ปริเภท ลกฺขณา มีการเสื่อม เป็นลักษณะ

สํสีทน รสา มีการจมดิ่ง เป็นกิจ

ขยวย ปจฺจุปฏฺฐานา มีการสูญหาย เป็นผล

ปริภิชฺชมานรูป ปทฏฺฐานา มีรูปที่แตกดับ เป็นเหตุใกล้

อุปจยรูป คือ รูปที่เกิดขึ้นเป็นขณะแรก หรือ การสั่งสมรูปเป็นปฐมใน ปฏิสนธิกาลสันตติรูป คือ รูปที่เจริญหรือขยายตัว เป็นการสืบต่อแห่งรูปรูปทั้ง ๒ คือ อุปจยรูป และสันตติรูปนี้ มีชื่ออีกนัยหนึ่งว่า ชาติรูป หรือ อุปปาทะรูปชรตารูป คือ รูปที่เสื่อม ทรุดโทรม คร่ำคร่าแก่ มีชื่ออีกนัยหนึ่งว่า ชรารูป หรือ ฐีติรูปอนิจจตารูป คือ รูปที่แตกดับสูญสิ้นไป มีชื่ออีกนัยหนึ่งว่า มรณรูป หรือ ภังครูป

บรรณานุกรม

๑.เว็ปไซต์มูลนิธิอภิธรรมมูลนิธิโดย อาจารย์บุษกร เมธางกูร

๒.เว็ปไซต์อภิธรรมโชติกะวิทยาลัย

๓.www.dhammajak.net/forums

๔.หนังสือ นักธรรมชั้นโท สำนักพิมพ์เลี่ยงเชียง

๕.ในส่วนรูป๒